TEI ร่วมแสดงเจตจำนงเพื่อส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

9 ธันวาคม 2568: TEI ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่มีพันธกิจสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการส่งเสริมจัดการสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน รวมถึงให้การรับรองฉลากสิ่งแวดล้อม เช่น ฉลากเขียวในการเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับกรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานซึ่งมีภารกิจในการควบคุมการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินให้เป็นไปโดยถูกต้อง มีวินัย คุ้มค่า โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
ทั้งนี้ TEI นำโดย ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ดร.ถนอมลาภ รัชวัตร์ รักษาการผู้จัดการฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมการเปิดตัวแผนยุทธศาสตร์การจัดซื้อจ้างภาครัฐที่เป็นกับสิ่งแวดล้อม จัดโดยกรมบัญชีกลางร่วมกับองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาติ (UNIDO) โดยได้รับเกียรติจากเอกอัครราชฑูตแคนาดาประจำประเทศไทย นางสาวปิง กิดนิกร และเอกอัคราชฑูตอังกฤษประจำประเทศไทย นายมาร์ค กูดดิ้ง กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี ให้เกียรติกล่าวเปิดงาน
อีกทั้งร่วมลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนงเพื่อส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมระหว่างหน่วยงานพันธมิตรที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ประกอบด้วยกรมบัญชีกลาง โดยนางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง กรมควบคุมมลพิษโดย ดร.สุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดย นางณัฐริกา วายุภาพ นิติพน
รองผู้อำนวยการ อบก. และส่งมอบหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจาก UNIDO และธนาคารโลก (The World Bank)
แผนยุทธศาสตร์การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Public Procurement Framework) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตของประเทศ สร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนพัฒนานวัตกรรมสีเขียว และสร้างความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากรของภาครัฐในระยะยาว  และบันทึกแสดงเจตจำนงดังกล่าวเป็นการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุน เสริมสร้างตลาดสินค้า และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2050